เมื่อวันที่ 1 ก.พ.2566 ภายในบริเวณลานสนามบินเก่าของค่ายขุนจอมธรรม (ร.17 น 4) อ.เชียงคำ จ.พะเยา ได้มีการจัดงานประจำปีของอำเภอขึ้น โดยใช้ชื่องานว่า “งานอนุสรณ์ผู้เสียสละ พลเรือน ตำรวจ ทหาร (พตท.)2324) ประจำปี 2566 ซึ่งในพิธีวางพวงมาลาและทำบุญให้กับวีรชนผู้กล้าทาง พล.อ.ดร. ศิริ ทิวะพันธ์ ประธานมูลนิธิอนุสรณ์ผู้เสียสละ พตท.2324 ได้เดินทางมาเป็นประธานในการทำบุญรวมทั้งวางพวงมาลาในครั้งนี้ โดยมีส่วนราชการทั้งในพื้นที่ จ.พะเยา จ.เชียงราย และ จ.แพร่ มาร่วมกันอย่างมากมาย นอกจากนี้ ในภาคกลางคืนช่วงพิธีเปิดงาน ว่าที่ ร.ต.ณรงค์ โรจนโสทร ผู้ว่าฯพะเยา ได้เดินทางมาเป็นประธานในการเปิดงานอนุสรณ์ผู้เสียสละอย่างเป็นทางการ ซึ่งนายธวัช จรัสวรภัทร นอภ.เชียงคำ พ.ต.อ.เฉลิมชาติ ยาวิชัย ผกก.สภ.เชียงคำ พ.ท.นพดล โตแทนสมบัติ ผบ.ร 17 พัน 4 (ค่ายขุนจอมธรรม)รวมทั้งหัวหน้าส่วนราชการ กำนัน – ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้านให้การต้อนรับ และร่วมเปิดงานในครั้งนี้ด้วย โดยมีการแสดงฟ้อนต้อนรับและเล่าขานชาติพันธุ์ของ อ.เชียงคำ จากนักเรียน ร.ร.เชียงคำวิทยาคม รวมทั้งการเดินแบบผ้าไทยใส่สนุกจำนวน 30 คู่ ด้วยกัน
นายธวัช กล่าวว่า ในการจัดงานประจำปีของอำเภอในครั้งนี้นั้น เห็นว่าไม่ได้จัดมาเกือบ 3 ปีแล้ว หลังจากที่สถานการณ์โควิดระบาดในช่วงก่อน ทั้งนี้การจัดงานดังกล่าว ตนได้มีความคิดในเรื่องของการเปิดงานแบบโอเพ่น โดยไม่เก็บค่าบัตรเข้างาน ด้วยเห็นว่าจากข้อมูลเดิมนั้น การจัดงานดังกล่าวมีการเก็บบัตรเข้างานทำให้ประชาชนที่มาเที่ยวต้องเสียเงิน 2 – 3 ต่อด้วยกัน ตนจึงคิดว่าให้คนเที่ยวเดินเข้างานโดยที่ไม่ต้องควักเงินค่าเข้า แต่ให้ไปเสียค่ากินและเครื่องดื่มจะดีกว่า นอกจากนี้ ป้ายฉากหลังเวทีกลางนั้นตนเห็นว่า อ.เชียงคำ เป็นเมืองแห่งวัฒนธรรม ชาติพันธุ์และน้ำใจอันดีงามที่ประชาชนในพื้นที่ มีความเอื้อเฟื้อให้กันตลอดมา จึงได้ออกแนวความคิดและผสานกับการออกแบบและลงสีของคณะครู – นักเรียนจาก ร.ร.เชียงคำวิทยาคม ภายใต้ไม้อัดจำนวน 50 แผ่น ให้ออกมาได้อย่างสวยงาม ซึ่งภาพดังกล่าวได้สื่อให้เห็นในเรื่องต่าง ๆ ที่อยู่ในพื้นที่ของ อ.เชียงคำ แห่งนี้ด้วย รวมทั้งในการจัดงานดังกล่าว ตนได้วางผังงานทุกร้านค้า ทุกการแสดงให้อยู่ในพื้นที่ของขอบสนามบินเก่า เพื่อป้องกันฝุ่นรอบ ๆ สนามบินเก่าด้วยเช่นกัน
ด้าน พ.ท.นพดล ได้กล่าวเสริมว่า ในเรื่องของการรักษาความปลอดภัยนั้น ตนเองได้สั่งการให้มีการตั้งชุด ชป.ขึ้นในแต่ละคืน ซึ่งจำนวนทหารที่เข้าควบคุมดูแลความสงบเรียบร้อยนั้น จะมีอยู่ประมาณ 20-30 นาย ตามความยากง่ายในแต่ละคืนด้วย นอกจากนี้ ก็ยังมีกำลังพลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงคำ ที่มาร่วมรักษาความปลอดภัย เพื่อที่จะได้มีการดูแลงานนี้ให้อย่างทั่วถึง และป้องกันเหตุที่ไม่พึงประสงค์ด้วยเช่นกัน โดยงานนี้จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 31 ม.ค.65 – 7 ก.พ.66 ทั้งนี้หากใครสนใจก็เชิญมาเที่ยวงานกันได้เพราะ 1 ปีมีเพียง 1 ครั้งเท่านั้น