จากกรณีการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอกและภาคีเครือข่าย มีเหตุปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนกับกลุ่มผู้ชุมนุม ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ต่อเนื่องมีการเผารถควบคุมผู้ต้องขังที่จอดบริเวณหน้า รพ.ราชวิถี อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และปะทะกันอีกหลายครั้งที่แยกดินแดง กระทั่งตำรวจสามารถควบคุมพื้นที่คืนได้ทั้งหมด ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมแยกย้ายกันกลับ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมานั้น
ต่อมา พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ ธิติธารวัฒน์ อดีตรอง ผกก.ฝอ.ภ.จว.พะเยา อาจารย์ (สัญญาบัตร 2) กลุ่มงานอาจารย์ ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภาค 5 จังหวัดลำปาง โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เตือนการใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยระบุว่า อยากฝากเตือนตำรวจรุ่นน้องๆ ทั้งนายตำรวจและตำรวจชั้นประทวนซึ่งหลายคนเคยเป็นลูกศิษย์ผมว่า ผู้บังคับบัญชาของพวกท่านที่สั่งการให้ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมโดยใช้กฎหมายและชุดความคิดแบบว่าผู้ชุมนุมคือผู้ก่อความไม่สงบในบ้านเมืองมาครอบหัวพวกท่าน ผบ.เหล่านี้ล้วนเติบโตมาจากระบบอุปถัมป์ วิ่งเต้นเส้นสายจนเป็นใหญ่เป็นโต
มันสั่งให้พวกท่านทำร้ายประชาชน มันได้ดิบได้ดีแล้วก็ทิ้งพวกท่านไปเป็นใหญ่ขึ้น ทิ้งให้พวกท่านต่อสู้คดีความที่จะถูก ปชช.ฟ้องร้อง ม.157 และอื่นๆ ที่จะตามมา อย่าลืมว่าอายุความคดีเหล่านี้หลายปี ปชช.เอาคืนแน่ ผมเคยเป็นนายตำรวจเหมือนพวกท่าน และผ่านการฝึกการควบคุมฝูงชนตาม พรบ.การชุมนุมในที่สาธารณะ อย่างพวกท่านมาแล้ว
ในการลงปฏิบัติหน้าที่ คฝ. เราสามารถยืดหยุ่นสถานการณ์ได้ ใช้กำลังเท่าที่จำเป็นจากเบาไปหาหนักตามที่ฝึกมา การเจรจาดีที่สุดในการยุติความรุนแรงไม่ว่าจะมาจากฝ่ายใด ผมอยากเตือนน้องๆ ว่า นายของพวกท่านโดน ปชช.เอาคืนแน่..แต่ผมไม่อยากเห็นตำรวจผู้น้อยอย่างพวกท่านโดนคดีตามนาย*** เหล่านี้ไปด้วยผมเตือนแล้วนะ.
ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 8 สิงหาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเฟซบุ๊ก Songsak Thititharawat ได้โพสต์ข้อความโดยระบุว่า จากโพสต์ๆ นี้เกิด Feedback มากมาย ทั้งกองเชียร์และกองแช่ง ผมดังในชั่วพริบตา ขอบคุณ 1.7 แสนไลค์ที่เป็นกำลังใจกัน ผมไม่อยากเชื่อว่าโพสต์ผมจะสั่นสะเทือนไปถึงหอคองาช้าง ส่งคนเจรจาขอให้ผมซอฟต์ลง คนมาเจรจาก็รักใคร่กัน ผมไม่อยากให้ใครต้องเดือดร้อน โดยเฉพาะคนที่ยังต้องรับราชการต่อไป ผมเห็นใจน้องที่มาเจรจา จึงรับปากว่าจะโพสต์ให้ซอฟต์ลง เค้าไม่ได้ขอให้ผมลบโพสต์นี้ แต่ผมตัดสินใจลบเองเพื่อเห็นแก่ทุกฝ่ายโดยเฉพาะองค์กรตำรวจที่ผมรัก ใช่ว่าผมจะกลัวอำนาจที่ไม่ชอบธรรม แต่เพราะโพสต์ที่ผมลบนี้บรรลุเป้าประสงค์ของผมแล้ว คือรักและยังอยากเห็นองค์กรตำรวจเป็นที่พึ่ง ไม่ใช่ศัตรูของประชาชน.