วันอาทิตย์ ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2566, 16.49 น.
จับจังหวะย่างก้าวการเคลื่อนไหวของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่แห่ง 3 ป.ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในคิวลงพื้นที่ต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง ทั้งแบบเป็นทางการ และแบบซุ่มเงียบ
17 มกราคม “บิ๊กป้อม” ลาประชุม ครม.ลงพื้นที่จังหวัดราชบุรี แบบ “ซุ่มเงียบ” โดยในช่วงเช้าสายข่าวคนติดตามให้ข้อมูลอ้างว่า “ลาป่วย” เนื่องจากเหนื่อยล้าจากภารกิจลงพื้นที่จังหวัดพะเยาในวันก่อนหน้า ก่อนจะที่ช่วงบ่ายคำเฉลยจะหลุดจากปาก “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เองว่า “เห็นว่าท่านไปราชบุรี”
ก่อนที่ทั้งภาพและคลิปจะหลุดออกมาอย่างตั้งใจในช่วงเย็นวันเดียวกันว่า “บิ๊กป้อม” ดอดซุ่มเงียบบุกบ้าน “วิวัฒน์ นิติกาญจนา” นายก อบจ.ราชบุรี สามี “นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา” ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ บ้านใหญ่แห่งราชบุรี โดยมี “กุลวลี นพอมรบดี” ส.ส.พลังประชารัฐ และ “อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์” ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่มีกระแสว่าจะย้ายไปพรรค “รวมไทยสร้างชาติ” ร่วมต้อนรับ
ซีนนี้ถือเป็นฉากเริ่มของยุทธการ “ปาดหน้าเค้ก” ในปฏิบัติการ “เชิงรุก” เพื่อเข้าหาเป้าหมายนั่นก็คือกลุ่ม ส.ส.ที่เตรียม “แปรพักตร์” ย้ายค่ายทิ้ง “ลุงป้อม” เปลี่ยนเลนเบนสายหา “ลุงตู่” เพราะคล้อยหลังสามวัน “บิ๊กตู่” ก็มีคิวลงพื้นที่เปิดงานตรุษจีนราชบุรีในวันที่ 19 มกราคม ที่ผ่านมา
เมื่อมีซีนแรก ซีนสองก็ต้องตามมา “บิ๊กป้อม” ชิงตัดหน้าลงพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ในวันที่ 20 มกราคม ก่อนที่ “บิ๊กตู่” จะมีคิวต้องลงพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์แห่งนี้ในวันที่ 30 มกราคม ด้วยเช่นกัน
โดยที่จังหวัดนครสวรรค์ ก็มี ส.ส.ที่มีกระแสว่าจะทิ้งลุงป้อม ย้ายไปซบพรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคอื่น อาทิ “นิโรธ สุนทรเลขา” ที่มีกระแสว่าจะย้ายไปพรรครวมไทยสร้างชาติ และ “สัญญา นิลสุพรรณ” เด็กในสาย “เสธหิ” หิมาลัย ผิวพรรณ แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่พร้อมหนุน “บิ๊กตู่” เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัย
เกมนี้ “พี่ใหญ่ ป.ป้อม” โชว์บารมีความเก๋าปาดหน้ากันแบบซึ่งหน้า ถึงขนาด “ป.ประยุทธ์” ได้แต่ทำตาปริบๆ และพูดได้เพียงว่า “ก็ดูเอาก็แล้วกัน”
ปฏิบัติการดังกล่าวเริ่มเดินเกมเพียงหนึ่งวันหลังจากที่ “บิ๊กป้อม” ลงพื้นที่จังหวัดพะเยา ท่ามกลางการจัดกำลังคนต้อนรับแบบเต็มสูบจาก ชรบ.กว่าพันคน โดยทีมงาน “ธรรมนัส พรหมเผ่า” เจ้าของพื้นที่จัดให้สมฐานะว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ที่ “วิรัช รัตนเศรษฐ” พูดย้ำนักย้ำหนาต่อชาวบ้านที่มาต้อนรับเรือนหมื่นในวันนั้น
สำทับกับช็อทเด็ดบนเวที ที่ “ธรรมนัส” นำ ส.ส.พะเยา โชว์ซีนซึ้งคล้องมาลัย “บิ๊กป้อม” พร้อมประกาศกลับบ้าน “พลังประชารัฐ”
ตามท้องเรื่องเดิม ทั้ง “ธรรมนัส” และ “บิ๊กตู่” ที่เคยสร้างบาดแผลให้กันและกัน ไม่อาจสมานรอยร้าวได้จากวันนั้น จนวันนี้ และยังคงร้าวลึกต่อไป และเมื่อ “พี่ป้อม” ชัดเจนว่ายังร่วมงานกับ “ธรรมนัส” หอกข้างแคร่ “น้องตู่” มันก็เป็นอะไรที่เหมือนสงครามประกาศขึ้นแล้วว่าศึกเลือกตั้งที่จะมาถึง สู้กันยิบตา ไม่มีปราณี ไม่มีพี่ไม่มีน้อง
ซึ่งมันก็เชื่อมโยงชัดกับ “จดหมายเปิดใจ” ออนไลน์ของ “บิ๊กป้อม” ที่สร้างความปวดหัวให้ “บิ๊กตู่” มาก่อนหน้านี้
เกมนี้ในโค้งแรก ดูเหมือน “บิ๊กป้อม” จะยังนำ “บิ๊กตู่” อยู่ก้าวหนึ่ง เพราะการเดินสายพบ “บ้านใหญ่” ก็เพื่อย้ำบารมีให้คนในไม่กลายเป็นนอก อยู่หนุนเป็นกำลังสำคัญตุนกระสุนในการเลือกตั้งครั้งหน้า ด้วยภาพลักษณ์ “คนกลาง” ที่ไร้ความขัดแย้ง เพราะหาก “พลังประชารัฐ” ยังคงเสียงในสภาได้ในระดับร้อยต้นๆ การเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลก็สามารถต่อติดได้เกือบทุกพรรค แม้กระทั้ง “เพื่อไทย”
ขณะที่ “บิ๊กตู่” กับ “รวมไทยสร้างชาติ” แม้กระแสจะบูมขึ้นมาในช่วงประกาศเปิดตัวทางการเมือง แต่โดนแผน “ปาดหน้า” แบบนี้เข้าไป ก็คงต้อง “วัดใจ” ส.ส.ในคาถาบ้านใหญ่ต่างๆ ว่าจะเลือกทางไหน
เพราะการ “วัดกำลัง” ต้องเริ่มต้นและให้อยู่ในภาวะ “เสถียร” ก่อนการเลือกตั้งจะมาถึง งานนี้ถือเป็นเกมที่ “เหนื่อย” ของ “บิ๊กตู่” และ “รวมไทยสร้างชาติ” เสียแล้ว
– 006