เมื่อ บิ๊กตู่ มีความชัดเจน องคาพยพอื่นๆ ก็ขยับชัดเจนตามมาด้วยเช่นกัน เสี่ยเฮ้ง-สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะ ผอ.พรรค พปชร.ชัดเจนมาตลอด พร้อมหอบ ส.ส.กว่า 12 คนไปกับลุงตู่ด้วย ส่วนกลุ่มสามมิตร นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ยังอุบไต๋อยู่ เช่นเดียวกับ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และเลขาธิการพรรค พปชร. แต่น่าจับตาวันที่ 24 พ.ย.นี้ พล.อ.ประยุทธ์มีกำหนดการลงพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ ถิ่นของนายสันติด้วย ส่วนพรรคเศรษฐกิจไทย นายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร ประกาศแล้วว่าจะกลับ พปชร.ช่วยลุงป้อม รวมทั้ง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ที่มีข่าวว่าจะไปอยู่พรรคเพื่อไทย ก็เชื่อว่าจะกลับมาช่วยลุงป้อมใน พปชร.เช่นกัน เมื่อบิ๊กตู่ไม่อยู่ พปชร. ธรรมนัสก็กลับมาอย่างสบายใจ เพราะเสือ 2 ตัวนี้อยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้…0
ทางด้านพรรคเพื่อไทย (พท.) เปิดตัวเพิ่มว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. 9 เขต นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค พท. ยังมั่นใจจะเข้าสู่เป้าหมายแลนด์สไลด์ได้ พร้อมประเมินท่าทีของ 3 ป.ว่า “ด้วยสถานการณ์ขณะนี้ ถ้ารวมกันอยู่เราตายหมู่ กลยุทธ์ที่เขาใช้ต้องแยกกันตี แยกกันทำ แล้วมารวมกันเพื่อเป้าหมายหลัก” เช่นเดียวกับ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค พท. มองว่า “การแยกกันอยู่ของ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ไม่มีเรื่องอะไรใหม่ พรรคไม่ได้หนักใจแต่อย่างใด เรื่องนี้เปรียบเสมือนเหล้าเก่าในขวดใหม่เท่านั้น” แหม ประเมินกันเก่งขนาดนี้ ทำไมปล่อยให้ 3 ป. กุมอำนาจมาได้กว่า 8 ปี นายใหญ่-ทักษิณ ชินวัตร ก็ประเมินว่าประยุทธ์อยู่ไม่ถึงเอเปกจนหน้าแตกไปแล้ว หลังยื่นญัตติอภิปรายทั่วไป ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 กลางเดือน ธ.ค.นี้ ถล่มทิ้งทวนให้อยู่หมัดไปเลย…0
ช่วงนี้ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. งานเข้าหลายอย่าง โดยศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ขอให้สั่งปลดออกจากตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. เนื่องจากเข้าข่ายละเว้นหน้าที่เปิดพื้นที่ลานคนเมืองหน้าศาลาว่าการ กทม. ปล่อยให้มีม็อบป่วนช่วงการประชุมเอเปกจนเกิดความวุ่นวาย ประกอบกับแกนนำม็อบเกือบทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 และติดป้ายจาบจ้วงสถาบัน เรียกร้องยกเลิกมาตรา 112 ขณะที่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ปล่อยคลิปวิดีโอทวงถามหนี้รถไฟฟ้าสายสีเขียวกว่า 4 หมื่นล้านบาท ล่าสุดรองผู้ว่าฯ กทม.กับที่ปรึกษาออกมาแถลงว่า ไม่มีเจตนาชะลอการชำระหนี้ แต่เน้นความครบถ้วนตามข้อบัญญัติ และต้องผ่านการพิจารณาของสภา กทม. ซึ่งก็สวนทางกับที่เคยหาเสียงว่าศึกษามา 2 ปี แต่ทำไมปล่อยปัญหายืดเยื้อ นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล จึงแนะว่า “รัฐบาลและ กทม.ต้องชัดเจนว่าไม่ขยายสัมปทานไปอีก 30 ปี ก็ควรจ่ายหนี้ ไม่ปล่อยให้ปัญหาคาราคาซัง เพราะหนี้จะยิ่งพอกพูน” ปัญหาน้ำท่วม กทม. ม็อบป่วนเอเปก และหนี้ BTS บททดสอบ บุรุษผู้แข็งแกร่งที่สุดในปัฐพี ว่ามีภาวะผู้นำแค่ไหน?…0.
แซมซาย