ตี้ พะเยา ปราศรัยซัดรัฐบาลล้มเหลว ทำม็อบลงถนน
เมื่อเวลา 19.40 น. วันที่ 13 มีนาคม น.ส.วรรณวลี ธรรมสัตยา หรือ ตี้ พะเยา ขึ้นปราศรัยเวทีอาชีวะไล่เผด็จการ ว่า การที่ออกมาชุมนุม ตนรู้ดีว่าอาจจะไม่รอดเรือนจำ แต่สิ่งที่จะบอกทุกคน คือ ขอให้เชื่อมันในตนเองว่าออกมาเรียกร้องอะไร อย่าไปยึดติดกับแกนนำ เราทราบกันดีว่าประชาธิปไตย คือการลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจให้ประชาชน นั่นหมายความว่าเราจะไม่ถูกนายกรัฐมนตรี กดขี่ข่มเหงประชาชน เพราะประชาธิปไตย คือประชาชน ที่กำหนดประเทศนี้
การออกมาชุมนุม เรารู้ดีว่า ไม่โดนหิ้ว ไม่โดนกระทืบ ก็โดนคดี บัดนี้ประชาธิปไตย มันเหลือแค่เสี้ยวเดียว ถ้าตนไม่ออกมาประชาธิปไตยจะไม่เหลืออีกเลย
น.ส.วรรณวลี กล่าวอีกว่า ฝั่งเราถูกไอโอปั่นให้เกลียดตำรวจ ฝั่งตำรวจก็มีไอโอยุยงให้เกลียดประชาชนเช่นกัน เขาเรียนรู้ว่าหากประชาชนไม่สามารถจับมือกับตำรวจได้ ก็จะไม่สามารถโค่นล้มเผด็จการได้ ตนไม่ได้บอกว่าให้ทุกคนไปจับมือกับ คฝ. แต่อยากให้ทุกท่านคิดถึงวันที่เราตอบโต้กับเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ถูกเหมารวมว่าทั้งม็อบรุนแรง ทั้งๆ ที่เป็นบางส่วน เมื่อเราไม่ชอบถูกเหมารวม คฝ. พวกนั้น ก็ไม่ชอบให้คนบางส่วนที่ไปตะโกนด่าเขาเช่นกัน
ตนอยากบอกอีกว่า วันใดที่ คฝ. ชั้นผู้น้อยถูกกดขี่ข่มเหง ประชาชนอย่าซ้ำเติม ขอให้ไปจับมือ โอบโกด วันนี้เขาอยากอยู่ในระบอบแบบนี้ ไม่เป็นไร แต่วันใดที่ท่านชอกช้ำจากระบอบเผด็จการ ประชาชนจะปกป้องคุณเอง หากเราทำให้เขาเห็นได้ว่าประชาชนพร้อมสู้ไปกับคุณ ตนเชื่อว่าวันใดวันหนึ่งที่ประชาชนถูกกดขี่ข่มเหง คฝ. จะยืนหยัดต่อสู้เพื่อพวกเรา
“ไม่ต้องบอกว่าตนเป็นสาย หรือแปรพักตร์ แต่วันนี้ตนเป็นผู้ใหญ่ ต้องแยกแยะคนดีคนเลว เราอย่าเหมาทั้งอาชีพว่าไม่ดี เพราะคนเลวเพียงไม่กี่คน”
ตี้ พะเยา ยังได้ปราศรัยโจมตีการทำงานของรัฐบาลที่ล้มเหลว จนทำให้ม็อบต้องลงมาบนถนน รวมทั้งยังมีไอโอคอยปลุกปั่นว่าม็อบสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน พร้อมระบุว่า วันนี้ข้อเรียกร้องของตนยังคงเหมือนเดิม 3 ข้อ คือ1.พล.อ.ประยุทธ์ ต้องลาออกจากตำแหน่ง 2.แก้ไขรัฐธรรมนูญ และ 3.ยกเลิกมาตรา 112
