วันที่ 5 พ.ย.2565 พ.ต.ท.สงกรานต์ กองอินทร์ สว.(สอบสวน) สภ.เทิง จ.เชียงราย รับแจ้งเกิดอุบัตเหตุบนถนนหมายเลข 1021 สาย อ.เทิง-เชียงคำ เขตติดต่อระหว่างหมู่บ้านศาลาวาส หมู่ 4 ต.หงาว และหมู่บ้านป่าจี้ หมู่ 8 ต.หงาว อ.เทิง จ.เชียงราย จึงพร้อมด้วยหน่วยกู้ชีพกู้ภัยเทศบาล ต..หงาว เทศบาล ต.เวียงเทิง สมาคมกู้ชีพกู้ภัยเทิง สมาคมกู้ภัยนครเทิง มูลนิธิสยาม (ปู่อินทร์) จุดเชียงคำ และหน่วยกู้ภัยสว่างพะเยา รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบเป็นถนนที่กำลังมีการก่อสร้างเพื่อขยายจาก 2 ช่องจราจรเป็น 4 ช่องจราจร และเป็นทางโค้งเล็กน้อยโดยเป็นช่องทางจาก อ.เชียงคำ จะไปทาง อ.เทิง โดยพบรถยนต์บรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิง สีขาว หมายเลขทะเบียน กรุงเทพฯ ชนเข้ากับด้านหน้าของรถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร่ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน กฉ 8800 พะเยา อย่างรุนแรงและลากรถยนต์คันดังกล่าวไปชนอัดติดกับเสาไฟฟ้าตรงปากซอยเข้าวัดป่าจี้ ท่ามกลางความตื่นตระหนักของผู้คนโดยรอบเนื่องจากยังมีน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่เต็ม
เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจสอบพบว่ารถยนต์บรรทุกน้ำมันเชิ้อเพลิงมีคนขับไปตามลำพัง บาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนถังน้ำมันเชื้อเพลิงไม่เสียหายและไม่มีรอยรั่ว เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันชักลากออกมาไว้โดยปลอดภัย
ขณะที่รถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ ปาเจโร่ พบว่ารถถูกอัดจนได้รับความเสียหายอย่างหนัก ภายในรถพบมีคนขับและผู้ที่โดยสาร รวมจำนวน 6 คน และพบมีผู้เสียชีวิตคาที่อยู่ภายในรถจำนวน 5 คน เป็นชาว จ.เชียงใหม่ จำนวน 3 คน และชาว จ.พะเยา จำนวน 2 คน ส่วนอีก 1 คนเป็นชาว จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นคนขับ ได้รับบาดบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจึงช่วยกันนำร่างทั้งหมดออกจากรถและนำผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน
จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุรถยนต์บรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงเดินทางมาจาก อ.เชียงคำ และ อ.ภูซาง จ.พะเยา มุ่งหน้าจะไปส่งน้ำมันจำนวน 10,000 ลิตร ที่สถานีเติมน้ำมันเขต อ.เทิง แต่เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุได้มีรถยนต์คู่กรณีขับย้อนศรมาจากทาง อ.เทิง เพื่อจะไปร่วมพิธีถวายผ้ากฐินที่วัดดอนมูล อ.ภูซาง ทำให้รถยนต์บรรทุกน้ำมันที่ขับมาด้วยความเร็วหยุดไม่ทันและหักหลบแต่รถคู่กรณีก็หักหลบไปในทิศทางเดียวกันทำให้เกิดการชนประสานงา เนื่องจากรถบรรทุกน้ำมันมีน้ำหนักมากกว่าจึงลากเอารถคู่กรณีไถลไปไกลประมาณ 50 เมตร จนไปอัดกับเสาไฟฟ้า
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบหลักฐานและสอบปากคำบุคคลเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป เนื่องจากถนนสายดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างทำให้อาจทำให้คนขับไม่ชำนาญเส้นทางหรือใช้ช่องทางไม่ถูกต้อง จนเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้.